รถแข่ง กีฬาท้าความตาย ควรหรือไม่กับการนำมาซิ่งบนถนน
หากเอ่ยถึงกีฬารถแข่ง หลาย ๆ คนคงรู้สึกว่าเป็นกีฬาที่ไกลตัวเสียเหลือเกิน ก็เพราะว่ากีฬารถแข่งเป็นกีฬาที่มีความเฉพาะตัวหลายต่อหลายอย่าง นับตั้งแต่สนามแข่งรถ รถที่ใช้แข่งขัน รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งรถเพื่อความปลอดภัย ซึ่งรถแข่ง แม้เป็นกีฬาที่ได้ชื่อว่าท้าความเร็วและเสี่ยงพอสมควร แต่หากเคารพกติกาก็ดีกว่าการนำมาซิ่งบนถนน ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีแก๊งรถแข่งมาแข่งบนถนนสายต่าง ๆ มาดูกันดีกว่าว่าการแข่งรถของประเทศไทยกับการนำมาซิ่งบนถนน ควรหรือไม่ และมีอุทาหรณ์สอนใจอะไรให้เราได้ใคร่ครวญชวนคิด
เชื่อหรือไม่ การแข่งขันรถแข่งบนถนนมีมานานแล้ว
หลายคนไม่รู้ว่าการแข่งขันรถซิ่งบนถนนสายต่าง ๆ หรือบนทางด่วนนั้นมีมานานแล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นที่ทางด่วนซึ่งไม่มีรถมากเกินไป จุดเด่นที่ทำให้ขาซิ่งหลายคนนิยมแข่งบนทางด่วนก็เนื่องมาจากความตื่นเต้น สุดมันส์ ถนนสายกว้างสามารถขับตีคู่กันได้หลาย ๆ คัน แตกต่างกันกับการแข่งรถในสนามซิ่งที่ถนนจะแคบมากกว่า ไม่เร้าใจและตื่นเต้น ทว่าการที่จะไปแข่งขันหรือซิ่งรถบนทางด่วนนั้นก็มีข้อเสียหลายประการ อย่างแรกก็คือการที่ทางด่วนเป็นถนนส่วนรวม ทำให้มีรถหลายประเภทที่ขับร่วมกัน หากว่ารถซิ่งขับด้วยความเร็วแล้วปะทะกับรถชนิดอื่น ๆ ที่ขับมาในจังหวะของตัวเอง ก็จัดได้ว่าเป็นอันตรายมาก บางทีอาจจะทำให้เกิดการเสียหลักและส่งผลต่อรถที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันและรถที่ซิ่งกันเอง ส่วนใหญ่รถซิ่งจะขับมาด้วยความเร็ว ทำให้เสียหลัก ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ การที่ทางด่วนเป็นเส้นทางที่เข้าถึงยาก ไม่มีไหล่ทาง บางทีการเข้าช่วยเหลือด้วยรถพยาบาลไม่สะดวกนัก
เทคโนโลยีกับการสกัดจับ
ในยุคของรัฐบาลลุงตู่ เป็นยุคที่มีการเข้มงวดกับรถแข่งหรือรถซิ่งอย่างมาก ด้วยการเข้มงวดของรัฐบาล จึงส่งผลให้แก๊งรถซิ่งหลาย ๆ แก๊งนั้นเลิกราการแข่งรถบนทางด่วนไป นอกจากนี้ทางภาครัฐยังมีการสกัดจับด้วยเทคโนโลยี นั่นก็คือการใช้กล้องดักจับความเร็วอย่างเข้มงวดในเส้นทางที่คาดว่าจะมีแก๊งรถซิ่งผ่าน หากสปีด คาเมราหรือกล้องดักจับความเร็วตรวจพบก็จะสามารถตั้งด่านจับได้แบบทันท่วงที แต่หากเกิดกรณีแบบรถซิ่งถนนราชดำเนินก็นับว่าเป็นจุดบอดที่ตำรวจหลายคนไม่ได้คาดคิดมาก่อน
การแก้ไขที่ยั่งยืนกับปัญหารถซิ่งหรือรถแวนซ์บนถนน ทางด่วนสาธารณะก็คือการสกัดจับอย่างเข้มงวด เมื่อจับได้อาจจะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งการยึดใบขับขี่สามเดือน หรือการแจ้งผู้ปกครองให้รับทราบข้อกล่าวหาเพื่อให้ได้ทำความเข้าใจและอบรมความประพฤติของลูกหลานให้ดี หรือไม่ฉะนั้นให้ทำการยึดรถไว้ก่อน นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนนของคนทั่วไป เพื่อความสุขของทุกคน